• 29 April 2024 21:20

THE FLOWS Thailand

นำเสนอข่าวสาร ทุกสารพันข่าว ข่าวการเมืองเข้ม

จากคลิปโหดจนกลายเป็นคดีดัง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ ผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์ และลูกน้องใช้ถุงคลุมหัวผู้ต้องหาคดียาเสพติด จนทำให้ขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตในที่สุด ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าเขาเติบโตในราชการตำรวจ

พันตำรวจเอกธิติสรรค์ อุทธนพล ที่ข้ามขึ้นเป็นผู้กำกับติดยศพันตำรวจเอกอย่างรวดเร็วแซงหน้าเพื่อนเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 57 ไปหลายสเต็ป แถมยังแซงหน้ารุ่นพี่อีกหลายร้อยชีวิต จากบัญชีอาวุโสสมัยพันตำรวจเอกยังเป็นรองผู้กำกับการรองสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก มีอาวุโสอยู่ท้ายตาราง กลับพรวดพราดขึ้นมาฟาดยศพันตำรวจเอกขึ้นมาเป็นผู้กำกับการนครสวรรค์ พื้นที่ขุมทรัพย์กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ที่มีนายเป็นว่าที่พ่อตาอย่างหน้าตาเฉย มีเสียงลือลั่นว่าสมัยเป็นรองผู้กำกับการ สภ.เมืองพิษณุโลกนั้น พ.ต.อ. ธิติสรรค์ ก็ทำงานเป็นเสมือนเป็นเลขาส่วนตัว หรือเป็นนายเวร ให้กับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ด้วย ในพื้นที่ภาค 6 เองก็ยังมีเหตุสะเทือนเลือนลั่นยุทธจักรสีกากีจากคดียาเสพติด ไอซ์ 1.5 ตัน

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 62 ที่เชื่อมโยงไปถึงบิ๊กตำรวจคนดัง แล้วยังพัวพันกับตำรวจใหญ่ในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตากอีกด้วย ทราบกันดีว่าอำเภอแม่สอดเป็นพื้นที่อำเภอสำคัญ และมักมีข่าวขนยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านอยู่เป็นประจำ หรือเดินทางขึ้นลงภาคเหนือที่มีเส้นทางหลักผ่านจังหวัดนครสวรรค์ เส้นทางขนส่งยาเสพติด ของหนีภาษี รวมไปถึงแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย จากแนวชายแดนภาคเหนือต้องมาพักของที่เมืองปากน้ำโพ ก่อนเข้า กทม.หรือส่งออก สามารถจับกุมได้ทั้งรายเล็ก ไปจนถึงบิ๊กล็อตเป็นช่องทางหากินของตำรวจสีเทา สร้างรายได้มหาศาล

กรณีอื้อฉาวล่าสุด พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ พ.ต.อ.ภูเบศ แสงอร่าม ผู้กำกับการ สภ.เมืองแม่สอด จังหวัดตาก ปฏิบัติราชการ ศูนย์ปฏิบัติตำรวจแห่งชาติ มาจากสาเหตุการปล่อยปละละเลยให้มีแรงงานต่างด้าว ลักลอบเข้ามาในประเทศ ช่วงที่มีการประกาศ พรก.ฉุกเฉิน ควบคุมการแพร่ระบาดโควิด 19 โดยฝ่ายความมั่นคงทหารมีข้อมูลชัด ตำรวจแม่สอดอยู่เบื้องหลังขนแรงานต่างด้าวเข้ามาไทย โดยมีค่าหัวคนละ 3 หมื่น ถึง 5 หมื่นบาท ทราบมาจากในวงการว่า ผู้กำกับการแม่สอดมีฐานะเป็นน้องเมีย พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 เป็นที่สังเกตว่าการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจในพื้นที่ภาค 6 มักจะเลือกคนใกล้ชิดมาไว้ที่จุดเส้นทางยุทธศาสตร์ ที่ว่านำมาซึ่งกระแสข่าวการใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ในพื้นที่ภาค 6 ที่หนาหูมาตลอด

อย่างไรก็ตาม การที่ลูกพี่มีนโยบายแสวงหาประโยชน์ ก็ใช่ว่าลูกน้อง จะก้มหน้าลู่ลมตามน้ำ เพราะบางครั้งอะไรที่มากเกินไป ทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาอึดอัด รอวันระเบิดเท่านั้น ชัดเจนกับกรณีตำรวจชั้นผู้น้อย ร้องเรียนผู้กำกับโจ้ ทันทีที่เกิดเรื่องผู้ต้องเสียชีวิตคาห้องสืบสวนกึ่งเซฟเฮ้าส์ สถานีตำรวจในอารมณ์แก้แค้นเอาคืน จากที่ถูกกดหัวอยู่นาน และไม่เพียงขอความเป็นธรรมให้กับผู้ตายครอบครัวเท่านั้น มีขอความเป็นธรรมให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเองด้วย ในหนังสือร้องเรียนมีประโยคทิ้งท้ายที่ว่า “อยากให้ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดนะครับ” เป็นการสะท้อนถึงความรู้สึกถึงลูกน้องที่มีต่อผู้กำกับโจ้ได้เป็นอย่างดี ต้องติดตามต่อไปว่าเรื่องนี้จะมีบทสรุปอย่างไร

ขณะนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการลงนามที่จะเอาผิดทั้งวินัยและอาญา เพราะถือเป็นการกระทำที่เสียหายต่อประชาชน และ สตช.รุนแรง ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ยืนกรานในความบริสุทธิ์ไม่ได้ซ้อม หรือทำร้ายใดๆ หรือให้เกิดการเสียชีวิต ส่วนประเด็นการเสียชีวิต ทราบดีว่าน้องที่เสียชีวิตมีโรคประจำตัว ส่วนการเรียกร้องเงินทอง ขอยืนยันในฐานะตำรวจ ว่าไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น เรื่องนี้ยังมีเพียงข้อกล่าวหา แต่ถือว่ามีน้ำหนักไม่น้อย มิเช่นนั้น ว่าที่พ่อตาคงไม่รีบร้อนออกคำสั่งย้าย แถมให้ขาดจากตำแหน่งเดิม นี่ถือเป็นการสวบสวนความผิดร้ายแรงทันที เรื่องนี้ในขบวนการกฎหมายไม่สามารถตัดจบทางตำรวจเองได้ ต้องจบที่ศาลเท่านั้น แม้ว่าครอบครัวผู้ตายจะไม่ติดใจเอาความก็ตาม เพราะเป็นกรณีการเสียชีวิตในระหว่างการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ ที่ถือเป็นอาญาแผ่นดิน ที่ต้องทำการไต่สวนชันสูตร และส่งสำนวนให้ศาลพิจารณาเหตุการณ์เสียชีวิต และสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตและมีเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ด้วยหรือไม่

ตามมาตรา 150 แห่งประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญาระบุถึงกรณีมีการตายเกิดขึ้น โดยการกระทำของเจ้าพนักงาน ซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ หรือตายช่วงที่อยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงาน ซึ่งอ้างว่าปฏิบัติในราชการตามหน้าที่ ให้พนักงานสอบสวนปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานอัยการ เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานการชันสูตรพลิกศพแล้ว ให้ยื่นร้องขอไต่สวนต่อศาล  อย่างไรก็ตามคดีนี้จบแล้วกลุ่มตำรวจที่ร้ายกว่าโจร จำนนต่อหลักฐานแบบหนีไม่ออกเมื่อมีคลิปวิโอในที่เกิดเหตุหลุดออกมาหลายคลิป

จากภาพที่เกิดเหตุจาก สภ.เมืองนครสวรรค์มีคนที่ร่วมทำผิดไม่น้อยกว่า 5 คนเป็นตำรวจทั้งหมด

คนที่ 1. พ.ต.อ.ธิติสรรค์ เสื้อดำเอาถุงพลาสติกครอบหัว แล้วรัดปากถุงบริเวณคอผู้ตายและทุบตี

คนที่ 2.สวมเสื้อยืดสีแดง เป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร ชื่อต้อย เป็นนายร้อยตำรวจที่เลื่อนขึ้นจากดาบตำรวจ ทำหน้าที่ยื่นถุงให้และกดคอลงกับพื้น

คนที่ 3. ส.ต.ต.ปวีร์กร คำมาเร็ว ใส่เสื้อยืดสีน้ำตาลขึ้นเหยียบคอ

คนที่ 4.พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง สว.สืบสวน คือชายเสื้อดำรูปร่างสูง

คนที่ 5. ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค คือชายอ้วนลงพุงใส่เสื้อสีเขียวขาว

งานนี้จบแต่ไม่สวย ถูกผิดว่ากันไปตามขบวนการกฎหมาย ซึ่งชะตากรรมของผู้กำกับโจ้ ถูกแขวนไว้บนเส้นด้ายแล้ว เพราะพยานหลักฐานปรากฏชัดเจน และด้วยเหตุการณ์นี้คงจะได้รู้ถึงสัจธรรม  ที่ว่าเงิน ซื้อทุกอย่างไม่ได้ โดยเฉพาะบาปกรรม ใครทำ ใครก่อ คนนั้นรับกรรม The FLOWs รายงาน

#การเมืองก๋ากั๋น

#TheFlowsข่าวสารการเมือง

#ข่าวสารการเมือง

#ผกก.โจ้

Loading

Facebook Comments Box

Related Post

‘ชนะศักดิ์’ อัดเด็กหน่อยไร้มารยาท ย้อนกลัว ‘แรมโบ้’ เป็นส.ส.ขวางแก้กม.ทำลายสถาบันหรือ
‘สามารถ’ ประกาศขอเดิมพัน หาก’เพื่อไทย’ยกเก้าอี้ประธานสภาให้’ก้าวไกล’ ตนจะยอมโกนหัว!
‘น้องแรมโบ้’ ฟาดกลับ ‘ตรีชฎา’ กวาดบ้านตัวเอง ก่อนจุ้นบ้านนายกฯบิ๊กตู่

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Social Share Buttons and Icons powered by Ultimatelysocial