กระแสหึ่ง พรรคพลังประชารัฐ “ธรรมนัส” ปีนเกลียวเก้าอี้นายกฯ  ส่อแววแป๊ก หลังมีคำสั่งตรง เช็คบิลริบทุกเก้าอี้หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ

“ยืนยันว่ายังไม่มีความคิดตรงนี้ โดย 2 เรื่องที่ขอยืนยันตรงนี้ ใครจะพูดอะไรก็แล้วแต่ ยังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตอนนี้ และจะไม่มีการยุบสภา ตอนนี้ไม่มีในสมองเลย เพราะฉะนั้นใครที่พูดในลักษณะนี้ระวังตัวไว้ด้วยแล้วกัน เพื่อสร้าง” จะบอกว่าเดือดกว่าในสภาหลายเท่า เกมเขย่าเก้าอี้ นาทีนี้ ไม่มีใครยอมใคร  คุยรายตัว 2 ขั้วฝ่ายเดียวกัน คว้านชอป รวบรวมเสียงต่างฝ่าย ต่างเป้าหมาย ฝ่ายหนึ่งมุ่งล้ม ติดเทอร์โบเดินหน้า เพราะถอยไม่ได้แล้ว อนาคตหลังศึกซักฟอก ไม่มีที่ยืน ตำแหน่งแห่งหนแน่นอน  3 คน ถูกปูนหมายหัวรู้ตัว รู้ชื่อแซ่หมดใครบ้างเคลื่อนไหว

จากที่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ไม่ให้ราคา พูดคุยใดๆ ทั้งสิ้น วันนี้หยอดหวานใส่ ขอเสียงช่วยโหวตอุ้ม ไปๆ มาๆ เกมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ใครต่อใครฟันธงไม่มีอะไร ผลจะออกมาเหมือนทุกครั้ง ชักไม่แน่ พรรคหลักแตกยับ ยากประสานเก้าอี้ใหญ่สะท้าน สะเทือนหนักเห็นตัวละครเอก ในเกม แต่ละท่านออกมาให้สัมภาษณ์ คอการเมือง       ซี้ดปากไม่ร้อนก็หนาว ที่น่าสนใจอย่าลืมว่า นาทีนี้พรรคพลังประชารัฐ กลับไปสู่สภาพเดิมคือ “พรรคร้อยพ่อพันแม่” ไม่ต่างจากวันที่ “นักเลือกตั้ง” หลายพรรคหลั่งไหลเข้ามาร่วมงาน นาทีนี้ในพรรคพลังประชารัฐ กลับไปสู่สภาพเดิมคือ หากดูจากตัวเลขกลมๆ พรรคพลังประชารัฐ มี ส.ส.จำนวน 122 คน ประกอบด้วยอดีต ส.ส. ,นักการเมืองท้องถิ่น, นักธุรกิจ และอื่นๆ ส่วนใหญ่จะเป็น ส.ส.หน้าใหม่ กว่าร้อยละ 60 มาจาก ส.ส.เขตในภาคกลาง, กรุงเทพมหานคร และภาคใต้ หากมีการวัดกำลังกันในวันที่ 4 ก.ย.2564 คงต้องสู้กันหนัก ระหว่างกลุ่มธรรมนัส กับกลุ่มไม่เอาธรรมนัส ที่ “รัฐมนตรีช่วย” คนหนึ่งเป็นแกนหลักรวบรวมไพร่พล

“สันติ” เคยเป็น 1 ใน 4 ช. ที่สื่อชอบเรียกขาน แต่วันนี้ กลายเป็น “ช” ที่หายไปจากฝั่งธรรมนัส โดยแตะมือกับ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น คู่แค้นของผู้กอง ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ มี ส.ส.สายเหนือ เป็นแขนขาประกอบด้วย  ส.ส.บัญชีรายชื่อ พะเยา ตาก กำแพงเพชร นครสวรรค์ และวัฒนา สิทธิวัง ส.ส.ลำปาง ส่วน ส.ส.พิจิตร 3 คน และ ส.ส.พิษณุโลก อีก 2 คน ก็ยังไม่ชัดว่าอยู่กับกลุ่มผู้กองธรรมนัส เพราะก่อนหน้านี้ พวกเขาสังกัดกลุ่มสามมิตร

นอกจากนี้ ในภาคอีสาน ส.ส.เขต 11 คน ก็อยู่ในสายผู้กองธรรมนัส 8 คน ที่ดูแลโดย เอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ “ร้อยเอกธรรมนัส” ยังเก็บเกี่ยว ส.ส.สมัยแรก จากภาคกลาง และภาคใต้ อีกประมาณ 20 คน มาอยู่ในซุ้มผู้กอง แต่จุดอ่อนของ “ส.ส.นกแล” สามารถย้ายไปขั้วไหนก็ได้ คู่แข่งของกลุ่มธรรมนัส คือ “สันติ พร้อมพัฒน์” รัฐมนตรีช่วยคลัง ที่ถอยออกมาเคลื่อนไหวร่วมกับ “สุชาติ ชมกลิ่น” รัฐมนตรีแรงงาน “สันติ” มีกลุ่ม ส.ส.เพชรบูรณ์ 5 คน เป็นกำลังหลัก

กลุ่มสันติ ยังมีพันธมิตรการเมืองเป็นซุ้มเดิม ๆ ที่ย้ายมาจากพรรคเพื่อไทย และแย่งชิง ส.ส.สมัยแรกในภาคกลาง, ภาคตะวันตก และภาคตะวันออกมาอยู่ในสังกัด ได้ซุ้มเป็นกลางในศึก 2 ขั้วค่ายพลังประชารัฐ รอบนี้ กลุ่มสามมิตร กลายเป็นกลุ่มเป็นกลาง ที่นั่งประเมินสถานการณ์ความขัดแย้งอยู่เงียบๆ เพราะมีประสบการณ์ผ่านศึกมาเยอะ

กลุ่มสามมิตร ยังรักษากำลังพลหลักไว้ได้ อาทิ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม, สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ,อนุชา นาคาศัย รมต.สำนักนายกฯ,

กลุ่มแสนสุข ของตระกูลคุณปลื้ม มี ส.ส.ชลบุรี 2 คน เพราะ ส.ส.อีก 3 คนแยกไปอยู่ซุ้มอื่นแล้ว เหมือนกลุ่มบ้านริมน้ำ ที่มีแค่ สุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทราเท่านั้น กลุ่มสระแก้ว ของตระกูลเทียนทอง มี ส.ส.เขต 2 คน และ ส.ส.สระแก้วอีกคนหนึ่งนั้น ขึ้นตรงต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กลุ่มปากน้ำ ของตระกูลอัศวเหม มี ส.ส.ในซุ้ม 5 คนได้แก่ อัครวัฒน์ อัศวเหม ,ยงยุทธ สุวรรณบุตร ,ภริม พูลเจริญ,ฐาปกรณ์ กุลเจริญ และกรุง ศรีวิไล ส่วนไพลิน เทียนสุวรรณ แยกไปสังกัดบ้านป่ารอยต่อฯ

กลุ่มเมืองหลวง ทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ล้วนเป็น ส.ส.สมัยแรก ต่างก็แยกไปสังกัดกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ,กลุ่มดาวฤกษ์ และกลุ่มอิสระซุ้มเป็นกลางก็เป็นตัวแปรที่สำคัญ เพราะมีกำลังพลมากกว่า 30 คน

เกมเปลี่ยนหัว หักเหลี่ยมเฉือมคม จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ และไม่มีใครคาดเดาปมนี้ได้ ต้องดูวันสุดท้ายของการโหวตอุ้ม…

#การเมือง

#การเมืองก๋ากั่น

#TheFlowsข่าวสารการเมือง