• 24 April 2024 06:57

THE FLOWS Thailand

นำเสนอข่าวสาร ทุกสารพันข่าว ข่าวการเมืองเข้ม

หมอวรงค์ ย้ำ! บัตร 2 ใบเอื้อนายทุน ที่ดีไซน์มาเพื่อการโกง เป็นการเอาเปรียบของพรรคใหญ่ไล่บี้พรรคเล็ก

Bytheowneroftheflows

Sep 11, 2021

สวัสดีครับพี่น้องครับ หลังจากที่พวกเราทุกคนรอคอยการลงมติจากที่ประชุมรัฐสภา ว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญจากบัตร 1 ใบ ไปสู่บัตร 2 ใบ แล้วทุกท่านก็รับทราบแล้วนะครับว่าที่ประชุมรัฐสภาได้เห็นชอบให้มีการแก้ไขจากบัตร 1 ใบ ไปสู่บัตร 2 ใบ เป็นสิ่งที่น่าเศร้านะครับพี่น้อง ผมเชื่อว่าหลายคนคงคิดไม่ถึงว่าวุฒิสภา วุฒิสมาชิกจะเป็นที่พึ่งในการตัดสินใจในปัญหาสำคัญของประเทศ แต่กลายเป็นว่า เสียง ส.ว.ส่วนใหญ่ ผมใช้คำว่า ส.ว. ตามเกณฑ์ที่เขาต้องการ ก็มีส่วนในการผลักดันนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในการเลือกตั้งจากบัตร 1 ใบ ไปสู่บัตร 2 ใบ

ผมจะมาเล่าให้พี่น้องเห็นภาพสักนิดหนึ่งว่า กติกาการเลือกตั้งมีส่วนสำคัญในการคัดคนเข้ามาสู่ตำแหน่ง แต่นั้นการคัดคนเข้าสู่ตำแหน่งอย่างไร กติกาเป็นแบบไหนมันก็จะได้คนที่สอดคล้องกับกติกา อดีตที่ผ่านมามันเป็นกติกาบัตรใบเดียว คุยกันหลายรอบซึ่ง ส่วนใหญ่แล้วมาจากกระแสผู้นำ เหมือนกับพี่น้องเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรงผ่าน ส.ส.

ส.ส.ก็จะเป็นกระแสของคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี มันจะทำให้คนเก่ง คนดี คนที่มีความสามารถนำพาประเทศได้ แต่ในเมื่อที่ประชุมรัฐสภาวันนี้ ภายใต้การนำของพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ และนายกรัฐมนตรีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาคิดอย่างไร ในการตัดสินใจในรูปแบบนี้ ด้วยการแก้ไขเป็นบัตร 2 ใบ คือให้มี ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน

หมอวรงค์กล่าวว่า ที่ผมเอาสิ่งเหล่านี้มาคุยเพราะผมเคยผ่านการเลือกตั้งแบบนั้นมา ผมเป็น ส.ส.สมัยแรกก็คือในระบบบัตร 2 ใบ และบัตร 2 ใบ มันก็จะบัตรที่พี่น้องเห็นน้อย ในเชิงเหตุเชิงผลแล้ว มันเป็นการเอาเปรียบของพรรคใหญ่ เพราะทุกอย่างก็จะได้ 2 เด้ง นอกจากพรรคใหญ่มีโอกาสได้ ส.ส.เขตแล้ว พรรคใหญ่ก็จะได้มีบัญชีรายชื่อเป็นของแถม ซึ่งมันต่างจากระบบบัตรใบเดียวที่เราเคยคุยกัน บัตรใบเดียวมันสะท้อนจำนวนคะแนนเสียงที่ประชาชนเลือกทุกพรรค คือคุณได้เท่าไหร่ คุณก็จะได้สัดส่วนเท่านั้น แต่ในระบบบัตร 2 ใบ คือเป็นการต่อสู้อย่างเต็มที่ของ ส.ส.เขต ส่วนปาร์ตี้ลิสต์ก็จะเป็นของแถมมันทำให้พรรคยิ่งใหญ่ขึ้น

แล้วอย่างผมอยากให้พี่น้องเห็นภาพอีกครั้งผมขอยืนยันว่าผมเป็น ส.ส.ที่มีประสบการณ์ในการชนะบัตร 2 ใบมาทุกครั้งที่เป็น ส.ส. บัตร 2 ใบ เราต้องยอมรับว่าคนที่ชนะคือชนะเลย ผมได้ 40,000 คะแนน คู่แข่งได้ 39,000 คะแนน คนแพ้ 39,000 ถูกตัดทิ้งไปเลย ยิ่งคนได้ 3,000 /5,000 ถูกตัดทิ้งไปเลย

ดังนั้นการต่อสู้ในเขตเลือกตั้งทั้งประเทศ 400 เขตเลือกตั้ง มันอยู่ที่การต่อสู้ของพรรคการเมืองเพียง 2 พรรคคือมันต้องใช้เงินเยอะ  นั่นคือการต่อสู้ต้องชนะ / ชนะ 100/200 คะแนนก็ต้องชนะ คือชนะ แพ้คือแพ้ มันจึงทำให้การต่อสู้ทุกคนต้องใช้เงินเยอะ

หลายคนบอกว่าการเลือกตั้งแบบไหนก็ต้องใช้เงินแต่มันใช้เงินต่างกัน อย่างที่ผมบอกว่าบัตรใบเดียวต้องใช้เงินน้อยกว่าระบบบัตร 2 ใบ เยอะมาก แต่ระบบบัตร 2 ใบ เช่นผมเป็นคู่ต่อสู้ ผมสู้เอง เพราะมันเป็นคะแนนของผม โครงข่ายหัวคะแนนก็เป็นของผม มันจึงทำให้ผมมีโอกาสเป็น ส.ส.ผูกขาดได้ และที่สำคัญคือต้องใช้เงินเยอะ เมื่อมีเงินเยอะสุดท้ายก็ต้องสังกัดมุ้ง มีคนมาดูแลเรา คนที่ดูแลมุ้งก็เป็นนายทุน ไม่สามารถที่จะไปหาคนที่มีความซื่อสัตย์ สุจริต คนดีมีความรู้ความสามารถ ไม่มี! ตัดทิ้งไปได้เลย คนที่เข้ามาดูแลก็เป็นนายทุน แต่นายทุนก็กล้าที่จะลงทุน เพราะเวลาไปอยู่ปาร์ตี้ลิสต์เขาก็จะได้เป็นปาร์ตี้ลิสต์อย่างแน่นอน เพราะในระบบบัตรใบเดียวที่ผ่านมา เราเห็นปาร์ตี้ลิสต์เช่นพรรคเพื่อไทย หลายคนไม่ได้เป็น ส.ส. สักคนเพราะทุกอย่างมันต้องสัมพันธ์กันกับจำนวนคะแนน

ดังนั้นขณะนี้มีบัตร 2 ใบ โอเคการต่อสู้ที่มีการรุนแรงเพิ่มขึ้นคือชนะ แพ้คือแพ้ ต้องใช้เงินมากขึ้น ต้องสังกัดมุ้ง

มุ้งก็ต้องมีนายทุนมาดูแล นายทุนก็กล้าที่จะลงทุน เพราะนายทุนต้องเป็นปาร์ตี้ลิสต์แน่ ๆ เมื่อนายทุนลงมาดูแล อำนาจต่อรองของมุ้งต่างๆ ก็จะเกิดขึ้น พี่น้องจำคำพูดผมไว้เลยนะครับ จะเกิดมุ้งโน่น มุ้งนี้ เกิดขึ้นมาในการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี มุ้งก็ต้องดูแล ส.ส.ทีมตัวเอง และผมเชื่อว่าจากนี้ไปมันจะนำไปสู่การดึง ส.ส.เข้ามุ้งตัวเองมากขึ้น เพราะว่าทุกอย่างจะอยู่ที่ตัว ส.ส. มากขึ้น เพราะ ส.ส.จะเป็นตัวกำหนดหัวคะแนนของตนเอง

ดังนั้น พี่น้องครับ สุดท้ายแล้วมันก็จะหนีไม่พ้นระบบทุนสามานที่นายทุนที่เข้ามาครอบงำทรัพยากรหรือสมบัติของชาติ หรือมาคดโกงในเชิงนโยบาย ฉะนั้นพวกนี้เข้ามาก็พร้อมที่จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ และจะลงทุนให้ดูแลมุ้ง ดูแล ส.ส. ซึ่งผมคิดไม่ถึงว่ารัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ประชาชนเคยฝากความหวังไว้ แต่ท่าน …ผมไม่แน่ใจว่าท่านกำลังทรยศประชาชนหรือไม่ เพราะสิ่งท่านคิด หรือทีมงานท่านคิด ท่านอาจจะคิดแค่การเลือกตั้งครั้งหน้า แต่นักการเมือง หรือท่านพล.อ.ประยุทธ์ ที่ประชาชนฝากความหวัง ท่านต้องวางระบบให้กับประเทศ ท่านอย่ามองแค่การเลือกตั้งครั้งหน้าครั้งเดียวแล้วชนะ อย่ามองเพียงแค่นั้น เพราะในระบบบัตร 2 ใบ 400 เขต กับ 100 รายชื่อ ในระยะยาวแล้วนั้นท่านปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มันคือระบบทุนสามานที่เข้ามาครอบงำประเทศและสุดท้ายก็มาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ของชาติ ออกนโยบายหรือทุจริตเชิงนโยบาย และประเทศก็เผชิญกับปัญหาอีก นี่ผมยังไม่มองร้ายถึงขนาดว่า ออกกฎหมายล้างผิดหรือนิรโทษกรรมเพื่อเอานักโทษที่หนีคดีที่ศาลตัดสินเคยโกงกลับประเทศ ผมไม่ได้มองขนาดนั้น ผมมองแค่ว่าระบบนี้ มันไม่สร้างสรรค์ให้ประเทศ สามารถเอาคนซื่อสัตย์สุจริตขึ้นมาชี้นำได้

ในระบบนี้ท่านไม่สามารถปลดตัวเองกับธรรมนัสได้ ถ้าเป็นระบบบัตร 2 ใบ ผมยืนยัน แต่ในขณะนี้ที่ท่านปลดได้เพราะว่า มันเป็นระบบบัตรใบเดียว แต่ท่านก็ยอมไปสู่บัตร 2 ใบ ผมว่ามันอันตรายครับ

กระนั้น อยากกราบเรียนพี่น้องประชาชนทุกท่านว่า ผมเชื่อว่าประชาชนที่คิดถึงพื้นฐานที่ดีของชาติ ถึงกติกาที่ดีของประเทศ การคัดกรองคนเข้ามาดูแลประเทศ มันน่าเศร้าใจ เพราะคิดไม่ถึงว่า ไปย้อนอดีตใช้กติกา 20 ปีที่แล้ว ที่เคยสร้างปัญหา

ย้ำ! นะครับว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า ท่านอย่ามองแค่นั้น ท่านต้องมองล่วงหน้าไป 10 ปี เกิดอะไร? ขึ้นกับประเทศนี้ เพราะประเทศนี้เคยผ่านปัญหาแบบนี้มาแล้ว แต่ท่านก็ยอมให้เกิดขึ้น ผมถือว่าท่านผิดพลาด เป็นการผิดพลาดอย่างร้ายแรงที่สุดที่ไม่น่าให้อภัย ในการปล่อยให้บัตร 2 ใบ ดำเนินการเกิดขึ้นได้

ก็เลยถือโอกาสพูดคุยกับพ่อแม่พี่น้อง ถามว่าจากนี้ไปจะต้องทำอย่างไร บังเอิญการแก้ไขรัฐธรรมนูญรอบนี้เป็นร่างของพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำ! นะครับว่าพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องร่วมรับผิดชอบ ผมพูดเผื่อเอาไว้เลยนะครับ สมมุติว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าใครจะชนะก็แล้วแต่ ผมไม่ซีเรียส อาจจะอีกครั้งหนึ่งอาจจะเกิดปัญหาขึ้นมา สุดท้ายพี่น้องก็ออกมาร่วมชุมนุม มาสร้างปัญหาและนำไปสู่การเสียเลือดเนื้อการเสียชีวิตของพี่น้องประชาชน พี่น้องประชาชนวันนี้ต้องจดชื่อนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ คนที่มีบารมีคือพล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ ส.ว.ที่เกี่ยวข้อง และพรรคประชาธิปัตย์ที่เสนอร่าง ที่มีโอกาสนำไปสู่วิกฤตอีกอนาคต อีก 10 ปี ข้างหน้า

พี่น้องครับ คำถามว่า จากนี้ไปจะเป็นอย่างไรร่างนี้ อย่างที่เรียนไปแล้วว่าเป็นร่างของพรรคประชาธิปัตย์ มี 2 มาตรา คือมาตรา 83 และมาตรา 91 ที่นำไปสู่การแก้ไขเพื่อนำไปสู่บัตร 2 ใบ จากบัตร 1 ใบ ไปสู่บัตร 2 ใบ แต่บังเอิญการแก้ไข 2 มาตรา มันไม่สามารถครอบคลุมไปสู่การแก้ไขแบบบัตร 2 ใบ เขาต้องไปแก้ไขเพิ่มอีก 1 มาตราคือ มาตรา 86 ที่กำหนดถึงจำนวนประชาชนต่อสัดส่วน ส.ส. คือทั้งประเทศมี ส.ส.เท่าไหร่ ถ้าต้องการ ส.ส.เขต 400 คน ก็ต้องเอา ส.ส.ไปหาร แต่มาตรานี้เขาไม่ได้แก้ แต่มาตรานี้ยังเอา 350 เป็นตัวหารของจำนวนประชากรของประเทศที่มีสิทธิ์จะได้สัดส่วนของจำนวนประชากรต่อใน 1 เขตต่อ ส.ส. จำนวนเท่าไหร่ ซึ่งเขาไม่ได้แก้ไขมาตรานี้ เขาใช้เสียงของกรรมาธิการโดยอ้างโน่นอ้างนี่ บอกว่าเป็นมาตราที่เกี่ยวเนื่องแก้มาตรา 86 ก้เท่ากับว่า ขณะนี้เขาขอแก้ไข 2 มาตรา แต่เวลาแก้จริงๆ แก้ 3 มาตรา เขาขอแก้ไขมาตรา 83 และมาตรา 91 แต่เวลาแก้จริงเขาไปแก้มาตรา 83-86-91 เท่ากับว่าที่ประชุมคณะกรรมาธิการในการยกร่างแก้ไข ได้แก้ไขเพิ่มขึ้นอีก 1 มาตรา ซึ่งในหลักการตามกฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุด มันต้องเป็นการบังคับอย่างเข้มงวด เพราะเมืองไทยเราเป็นการใช้รัฐธรรมนูญแบบลายลักษณ์อักษร ถ้าลายลักษณ์อักษรที่เข้มงวดแก้ไข 2 คุณต้องแก้ไข 2 ถ้าคุณแก้ไข 3 คุณต้องแก้ไข 3 แต่ถ้าคุณจะทำเป็นบัตร 2 ใบ คุณต้องแก้ 3 มาตรา วันนี้คุณขอแก้ไข 2 มาตรา และผ่านวาระไป 2 มาตรา แต่เอาเข้าจริงคุณมาแก้ไข 3 มาตรา มันจึงทำให้กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญรอบนี้ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งตรงนี้เข้าข่ายล้มการปกครองก็ได้ ผมเชื่อว่าอาจมีท่าน ส.ส.หรือ ส.ว. ผมไม่มั่นใจ แต่พวกเราประชาชนมีสิทธิ์ที่ท่าน ส.ส.รวบรวมรายชื่อ ถ้าผมจำไม่ผิดอาจจะเป็น 1 ใน 10  จาก ส.ส. 50 คน ในการขอแก้ไข ซึ่งผมไม่แน่ใจว่า 1 ใน 5 หรือ 1 ใน 10 เพื่อขอยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในการตีความว่า ขบวนการแก้ไขนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

ประเด็นอยู่ตรงนี้ครับ ย้ำ! อีกครั้งว่าเขาขอแก้ไข 2 มาตรา คือ 83 และ 91 แต่เวลาแก้ไข เขาแก้ไข 3 มาตรา 83-86-91 ซึ่งผมกลับมองว่า มันเป็นไปไม่ได้ คุณขอ 2 คุณต้องแก้ 2 คุณขอ 3 คุณต้องแก้ 3 แต่คราวนี้คุณขอ 2 แต่แก้ 3 มีโอกาสขัดต่อรัฐธรรมนูญสูง และความหวังสุดท้ายเราฝากความหวังไว้ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ผมก็ได้แต่หวังว่าศาลรัฐธรรมนูญจะให้ความเป็นธรรมกับประชาชนคนไทยทั้งประเทศให้มีอนาคตที่ดี

ขอให้พี่น้องทุกท่านอย่าเพิ่งสิ้นหวัง ให้เราคิดว่า อนาคตที่ดีของประเทศยังมีโอกาสอยู่ แต่ให้พวกเราจำไว้เลยว่าวันนี้การแก้ไขมีนายกรัฐมนตรีชื่อพล.อ.ประยุทธ์ คนมีบารมีคือ พล.อ.ประวิตร พรรคที่เสนอคือพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคที่สนับสนุนใหญ่คือพรรพลังประชารัฐ และมี ส.ว.ชุดนี้ที่มีส่วนต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคต ถ้านับไปสู่วิกฤตกาล

งั้นขอสรุป ย้ำ! นะ ผมผิดหวัง และผมเชื่อว่าพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศก็ผิดหวัง กับนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ผมคิดไม่ถึงว่าคนมือระดับ พล.อ.ประยุทธ์  ที่ผมคอยให้กำลังใจ คอยคิดช่วยมาตลอด เพราะรู้ว่ามีความซื่อสัตย์สุจริต กลับยอมให้มีการแก้ไขกติกา นำไปสู่ระบบทุนสามานที่จะมาครอบงำประเทศ คิดได้อย่างไร? คิดว่าชนะการเลือกตั้งครั้งหน้าครั้งเดียว ทำไมไม่คิดยาวๆ ให้กับลูกหลานของประเทศ เพื่อสังคมได้คัดคนเก่ง คนดี คนซื่อสัตย์ สุจริต มาครอบ มาคลุมประเทศ แต่กลับกลายเป็นไปให้ระบบทุนสามานมาครอบงำประเทศ คิดได้ไง? พล.อ.ประยุทธ์

ประชาชนอุตส่าห์เชียร์ท่าน แต่ท่านทำอย่างนี้ ผมผิดหวัง ประชาชนส่วนใหญ่ก็ผิดหวัง แต่ไม่เป็นไร ผมได้แต่หวังว่า เมืองไทยต้องมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในการปกป้องคุ้มครอง หวังว่าจะมีเพื่อน ส.ส.ส่วนหนึ่งตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญรอบนี้ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เพราะ ขอ 2 คือ 83 กับ 91 แต่ดันไปแก้ 3 คือ 83-86-91 งั้นพวกเรารอลุ้นอีกทีนะครับว่ามีคนร้องไหม? และถ้าร้องแล้วศาลรัฐธรรมนูญจะว่าอย่างไร?

หมอวรงค์กล่าวต่อว่า ผมต้องพูดเรื่องนี้เพราะว่ามันคือจุดเปลี่ยนสำคัญของอนาคตประเทศ เราอย่ามองว่า ส.ส. พรรคโน้นจะชนะการเลือกตั้ง พรรคนี้จะชนะการเลือกตั้ง ใครจะได้เปรียบ อย่ามองอย่างนั้น แต่มองทิศทางประเทศที่เราจะไปได้ เพราะผมต้องย้ำว่า บัตร 2 ใบ เขต 400 เขต บัญชีรายชื่อ 100 พิสูจน์มาแล้วว่ามันไปไม่ได้ ประเทศมันไปไม่ได้ ประเทศมันมีวิกฤต เพราะระบบนี้มันเป็นทุนสามานเข้ามาครอบงำและนำไปสู่การทุจริตและสุดท้ายใช้อำนาจมิชอบ ประเทศมีปัญหาแล้วเอามาทำไม? พล.อ.ประยุทธ์ แต่ไม่เป็นไร? ก็รอดูนะว่า ถ้ามีการร้องศาลรัฐธรรมนูญ ศาลท่านจะว่าอย่างไร ผมอยากให้ทุกคนแสดงความรู้สึกออกมาให้ศาล ให้ ส.ส. ได้ร้องศาลและให้ศาลได้สัมผัสความรู้สึกว่า อนาคตของประเทศมันเป็นของพวกเราทุกคน มันไม่ใช่เป็นของนักการเมือง 500 คน ส.ว. 250 คน และที่สำคัญที่สุดคือรัฐธรรมนูญฉบับนี้เพิ่งเลือกตั้งมาได้แค่ 2 ปีเศษ ส.ว.เป็นชุดเฉพาะการ คือ 5 ปี หลังจากนั้นก็จะมี ส.ว.ชุดที่มีการเลือกตั้งของกลุ่มอาชีพกันเอง ซึ่งจะมีอยู่ 200 คน มันควรจะมีการเลือกตั้งสัก 2 ครั้ง ส.ว.ชุดถาวรตามรัฐธรรมนูญ ได้มาทำหน้าที่ เราให้มาประมวลว่าจะมีการปรับปรุงแก้ไข แต่คุณกลับมาชิงไหวชิงพริบของการได้เปรียบ ย้ำ! ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีทางไปสู้คุณทักษิณได้ เพราะทักษะในการโกงมันต่างกัน ทักษะบัตร 2 ใบ ต้องมีการจ่ายเงิน ลูกล่อลูกชนแม้ว่าท่านจะชนะครั้งนี้ แต่อีก 10 ปีประเทศก็เกิดวิกฤต เพราะระบบนี้มันดีไซน์มาเพื่อการโกงให้ทุนสามานเข้ามาครอบงำประเทศ

ย้ำ! อีกครั้งว่า อย่าเพิ่งสิ้นหวัง เราคิดถึงสิ่งดีดี อนาคตที่ดีของประเทศของเรา ต้องต้องมีกติกาในการคัดสรรหรือเลือกคนดีดีมาปกครอง ไม่ใช่กติกาที่เลือกคนโกง พวกโจร พวกนายทุนเข้ามาปกครอง

และเหลืออีก หนึ่งด่านคือการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งตามเงื่อนไขจะต้องยื่นภายใน 5 วัน หลังจากวันนี้เป็นต้นไป เรามาดูสิว่าจะมีคนมายื่นไหม?  ยื่นแล้วศาลจะตัดสินใจอย่างไร? สุดท้ายแล้วมันคืออนาคตของพวกเราทุกคน และที่สำคัญคือกติกาเหล่านี้มีผลต่อลูกหลานของเรา มันไม่ใช่เป็นอนาคตของพวกนักการเมืองเหล่านี้ เพราะพวกนี้เป็นนักเลือกตั้ง ไม่ได้คิดถึงกติกาที่ดีที่สุดของประเทศ คิดว่าตัวเองจะได้อะไรเท่านั้นเอง เราต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกันว่าประเทศยังมีความหวัง คือหวังที่ศาลรัฐธรรมนูญเป็นศาลสุดท้าย

หมอวรงค์กล่าวย้ำ! ว่าหากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินกลับมาสู่บัตรใบเดียว ผมยืนยันจากประสบการณ์การเมือง เป็น ส.ส.แบบผูกขาดแบบบัตร 2 ใบมาแล้วทุกครั้ง และเป็น ส.ส. สอบตกเพราะบัตรใบเดียว และทำให้ผมได้บทสรุปที่ชัดเจน แม้แต่ผมสอบตกในระบบบัตรใบเดียว แต่ในเชิงอนาคตที่ดีของเทศอีก 10 ปี 20 ปีข้างหน้า บัตรใบเดียวจะเป็นประโยชน์กับประเทศมากกว่า สร้างความมั่นคงที่ดีกว่า สามารถคัดสรรคนซื่อสัตย์สุจริต คนเก่ง คนดี เข้ามาได้ดีกว่าบัตร 2 ใบที่พวกทุนสามาน พวกขี้โกงจะเช้ามาครอบงำประเทศ เราให้กำลังใจซึ่งกันและกัน อย่าเพิ่งสิ้นหวัง และหวังว่าให้ ส.ส.ช่วยยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญและเรามาลุ้นกัน

และอย่าลืมจำชื่อเอาไว้นะครับ นายกที่เราฝากความหวังเอาไว้ และนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยชนิดที่คิดไม่ถึงว่า มันเกิดขึ้นได้ ถ้าคนใช้สมองคิดสักนิด จะไม่คิด อย่าทำแบบนี้ แต่ที่เกิดขึ้นมา นายกคนนี้ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ คนมีบารมีในพรรคคือพล.อ.ประวิตร พรรคนี้คือพรรคพลังประชารัฐและพรรคที่เสนอคือพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้ง ส.ว. โอกาสนี้เพียงเท่านี้ โอกาสหน้าเราคุยกันใหม่ สวัสดี! ครับ

#TheFlowsข่าวสารการเมือง

#การเมือง

#การเมืองก๋ากั่น

Loading

Facebook Comments Box

Related Post

‘ชนะศักดิ์’ อัดเด็กหน่อยไร้มารยาท ย้อนกลัว ‘แรมโบ้’ เป็นส.ส.ขวางแก้กม.ทำลายสถาบันหรือ
‘สามารถ’ ประกาศขอเดิมพัน หาก’เพื่อไทย’ยกเก้าอี้ประธานสภาให้’ก้าวไกล’ ตนจะยอมโกนหัว!
‘น้องแรมโบ้’ ฟาดกลับ ‘ตรีชฎา’ กวาดบ้านตัวเอง ก่อนจุ้นบ้านนายกฯบิ๊กตู่

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Social Share Buttons and Icons powered by Ultimatelysocial