ท่ามกลางความเคลือบแคลงใจในสังคม ตามมากับคำถามชิ้นใหญ่ กรณี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อุตส่าห์นั่งหัวโต๊ะแถลงข่าวเอง เพื่อเค้นหาความกระจ่าง ต่อหน้าสื่อไทยและต่างประเทศจำนวนมาก ที่มีความคลุมเครือชวนสงสัยตามมา พร้อมกับคำถาม

1.ทำไมให้ผู้ต้องหาคดีอุกฉกรรจ์ โหดเหี้ยมอำมหิตผิดมนุษย์มา ได้อภิสิทธิ์โฟนอิน เจื้อยแจ้วฝ่ายเดียวระหว่างแถลงข่าวว่า ไม่ได้ตั้งใจจะฆ่า แต่อยากสกัดยาเสพติดไม่ให้แพร่ระบาดถึงลูกหลานชาวนครสวรรค์ และไม่มีเรื่องเรียกเงิน 2 ล้านบาท ซึ่งอ้างเป็นครั้งแรก ไม่เคยทำมาก่อน ไม่เคยทุจริต เพราะเป็นการฟอกขาวตัวเองด้วยลีลาออดอ้อนประชาชนให้เคลิบเคลิ้มหลงเชื่อ ทั้งที่การตัดสินถูกผิด ต้องเป็นชั้นศาล-ผู้พิพากษา

2.ถ้าจะอ้างเป็นสิทธิผู้ต้องหา หรือเพื่อความเป็นธรรม ก็ควรจะต้องให้ตอบคำถามข้อสงสัยของสื่อแบบทูเวย์(สื่อสาร 2 ทาง) ไม่ใช่ตีกินข้างเดียว และต่อไปต้องให้ผู้ต้องหาคดีอื่นๆ รวมทั้งที่โดนปรักปรำและจับยัด ได้มีโอกาสชี้แจงต่อประชาชนทั่วไปด้วยเช่นกัน

3.ข่าวปล่อยครั้งแรกที่มีถึงสื่อทุกสำนัก มาจากไหน หรือจงใจโยนหินถามทาง เรื่องอ้างผกก.โจ้ถูกกดดัน จนต้องโทรศัพท์แจ้งตำรวจขอมอบตัว และให้ไปรับที่ชายแดนไทย-เมียนมาร์ ซึ่งเป็นที่รับผิดชอบของภาค 6

3.ข่าวลือมีเฮลิคอปเตอร์ ไปจอดรับที่ชายแดนไทย-เมียนมาร์ แล้วบินไปที่ชลบุรี เพื่อเปลี่ยนสถานที่มอบตัว-รับตัวเป็นพื้นที่ภาคอื่น นำไปสู่ข้อสงสัยมากมายที่ต้องอธิบาย เช่น ทำไมต้องสภ.แสนสุข ทำไมต้องภาค 2 และ รถยนต์สีขาวที่ขับไปส่งผกก.โจ้มอบตัวเป็นใคร เกี่ยวพันอะไรกับคดีหรือไม่ แม้จะเป็นเพียงข่าวลือ แต่คำถามก็ยังน่าสนใจอยู่ดี

4.การอ้างถึงผกก.โจ้โทรหาและปรึกษารองผบ.ภาค 6 แทนที่จะเป็นผบ.ภาค 6 ซึ่งอยู่ในฐานะทั้งผู้บังคับบัญชาโดยตรง และเป็นว่าที่ผู้ใหญ่ในครอบครัวที่ผกก.โจ้จะเข้าไปสมาชิกด้วยในฐานะว่าที่เขย (โดยมีภาพพรีเวดดิ้งเชื่อมโยงสัมพันธ์) มีนัยเพื่อตัดทอนอะไรหรือหลีกเลี่ยงข้อครหาอย่างไรหรือไม่

5.คำชี้แจงด้านเดียวของผกก.โจ้ เรื่องพฤติการณ์ตนเอง ขัดแย้งชัดเจนกับตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชา ที่ยอมรับกลางวงระหว่างนักข่าวไปสัมภาษณ์คนเป็นแม่ โดยย้ำชัดว่า หวาดกลัวและต้องทำตามคำสั่ง ผกก.โจ้

6.คำปฏิเสธของผกก.โจ้ว่า ไม่มีการเรียกรับเงิน 2 ล้าน ก็ขัดแย้งกับเสียงในคลิปภาพที่ปรากฎในโลกโซเชียลที่มีเสียงพูดชัดว่า ”ล้านเดียวจะพออะไร (วะ) เดี๋ยวกรูเอง”

เช่นเดียวกับข้ออ้าง เพิ่งทำ(ถุงดำคลุมหัว) ครั้งแรก แต่กลับมีการใช้ถุงถึง 3 ชั้น 3 ใบลงมือจนผู้ต้องหาขาดใจตาย ในทางคดีแสดงถึงการเตรียมการณ์มาก่อน

7.นายตำรวจใหญ่ 3 นายที่เกี่ยวกีบคดีนี้ ล้วนเป็น นรต.36 ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นผบ.ตร. พล.ต.อ.สุวัฒน์ คนนำทีมแถลง /ผบ.ภาค 6 พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการ และมีสถานภาพเป็นว่าที่พ่อตาผกก.โจ้ ตามที่สื่ิอนำเสนอทั้งข่าวและภาพพรีเวดดิ้ง อีกคนคือพล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร.ลูกชายอดีตอธิบดีกรมตำรวจ พล.ต.อ.แสวง ธีระสวัสดิ์ ‘บิ๊กใหม่’ได้รับมอบหมายให้ดูแลคดีนี้ และเป็นคนแรกที่ออกมาปฏิเสธข่าว เตรียมบินไปรับตัวผกก.โจ้ที่ชายแดนเมียนมาร์ เพื่อรักษาระยะห่างของตัวเองไว้

คดีใหญ่และกำลังร้อน โดยตัวละครเอก ผกก.โจ้ จึงยังเคลือบแฝงด้วยปมเงื่อนปมอีกมายมาย ชนิดที่บางคนที่คว่ำหวอดกับวงการสีกากีบอกให้จับตาดูระยะยาว อย่าดูแค่ระยะสั้นเฉพาะหน้าเป็นเด็ดขาด

#การเมือง

#การเมืองก๋ากั่น

#TheFlowsข่าวสารการเมือง