วันที่ 19 ส.ค. 64 ที่กองบัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.และโฆษก บช.น. กล่าวถึงการบังคับใช้กฎหมายและแนวทางการรักษาความสงบของกลุ่มผู้ชุมนุมว่า วันนี้ กลุ่มทะลุฟ้าได้นัดทำกิจกรรมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย บช.น.เตือนให้ทราบว่ากรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ประกาศควบคุมและเข้มงวดสูงสุด ห้ามมีการรวมตัวลักษณะที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเชื้อโรค หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ
ส่วนการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มทะลุฟ้าได้จัดกิจกรรมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีการนำแผ่นป้ายผ้าไปแขวนบริเวณพื้นที่ต่างๆ ของอนุสาวรีย์ฯ จากนั้นมีการจุดไฟเผาหุ่นฟางที่เตรียมมา ในส่วนนี้ สน.ชนะสงคราม และ สน.สำราญราษฎร์ จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนที่สามแยกดินแดง กลุ่มผู้ชุมนุม ที่ใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยิงลูกแก้ว ลูกเหล็ก ใช้ระเบิดปิงปอง ประทัดยักษ์ พลุไฟ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย มีการจุดเพลิงเผากรวยยาง แท่งปูนแบริเออร์ของการทางพิเศษ ทุบทำลายทรัพย์สินสาธารณะประโยชน์ของกทม.การทางพิเศษ ทั้งทรัพย์สินของราชการและเอกชน
ในการชุมนุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 3 คน หนึ่งในนั้นคือนายธนเดช หรือม่อน ศรีสงคราม ที่ศาลแขวงดุสิตออกหมายจับให้นำตัวมาดำเนินคดี ความผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และความผิดอื่นๆ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวถึงกรณีเยาวชนอายุ 14 ปี ถูกยิงได้รับบาดเจ็บว่า พนักงานสอบสวนพร้อมด้วยสหวิชาชีพ ได้สอบปากคำเด็กที่ได้รับบาดเจ็บและผู้ปกครอง ตัวเด็กได้แจ้งข้อมูลที่สำคัญในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชี้แผนที่เกิดเหตุ และที่สำคัญยืนยันว่ากลุ่มที่ก่อเหตุไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างแน่นอน ทราบจุดที่เกิดเหตุเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนสืบสวน ที่จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณนั้นที่มีอยู่หลายตัว คงจะได้ตัวในเร็วๆนี้
โฆษก บช.น.กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ (18 ส.ค.) สายตรวจ สน.พญาไท ตั้งจุดตรวจจับกุมชายไทยพร้อมด้วยอาวุธปืน .38 หนึ่งกระบอก กระสุนปืน 17 นัด ซองปืนพก 1 อัน และกระเป๋าคาดสีแดง โดยกล่าวหาว่า มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต นำอาวุธปืนมาในเมือง และที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหารับว่าเป็นศิษย์เก่าอาชีวะแห่งหนึ่ง แต่อ้างว่า ไม่ได้มาร่วมชุมนุม แต่ทิศทางการเดินทางใกล้บริเวณชุมนุม พนักงานสอบสวนสืบสวนต้องหาความเชื่อมโยง นำอาวุธปืนส่งตรวจว่า ปืนกระบอกนี้เคยก่อเหตุที่ไหนหรือไม่ เพราะในการชุมนุมที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานเป็นหัวกระสุนและปลอกกระสุนหลายปลอก จะต้องนำไปเปรียบเทียบกันว่าเคยก่อเหตุที่หนึ่งที่ใดหรือไม่ อย่างไร
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ กล่าวเพิ่มเติมในกรณีเดียวกันว่า เป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจ เพื่อลดทอนการพกพาอาวุธในลักษณะแบบนี้ ถึงแม้ผู้ต้องหาจะให้การว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุม แต่อย่างน้อยการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ต้องเข้มแข็งในการตั้งจุดตรวจสกัดเพราะผบ.ตร. ได้สั่งการไปยัง ผกก.โรงพักเพื่อป้องกันการก่อเหตุ
#การเมือง #การเมืองก๋ากั่น #โควิด19 #TheFlowsข่าวสารการเมือง #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ #กองบัญชาการตำรวจนครบาล
รวมยอดเข้าชม 241 total views, ยอดเข้าชมวันนี้ 3 views today